การใช้งาน Solid Tools
เครื่องมือ Solid Tools เป็นกลุ่มเครื่องมือสำหรับช่วยในการสร้างชิ้นงานที่ต้องประกอบชิ้นงานแต่ละชิ้นเข้าด้วยกัน ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้งานทำงานได้ง่ายขึ้น รวมชิ้นงานเป็นชิ้นเดียวกัน ตัดส่วนของชิ้นงานที่ทับกัน ประกอบด้วยเครื่องมือดังต่อไปนี้
Outer shell | |
Intersect | |
Union | |
Substract | |
Trim | |
Split |
การเรียกใช้งานกลุ่มเครื่องมือ Solid Tools
กลุ่มเครื่องมือ Solid Tools เป็นกลุ่มเครื่องมือใหม่ที่เพิ่มเข้ามาใน SketchUp Pro Version 8 เท่านั้น ซึ่งช่วยในการสร้างชิ้นงานที่ต้องประกอบชิ้นงานแต่ละชิ้นเข้าด้วยกัน ทำให้ผู้ใช้งานใช้งานได้ง่ายขึ้น เช่น รวมชิ้นงานให้เป็นชิ้นเดียวกัน ตัดส่วนของชิ้นงานที่ทับกัน เจาะรูบนชิ้นงาน เราสามารถเรียกใช้งานกลุ่มเครื่องมือนี้ได้จาก View > Solid Tools ดังภาพ
ภาพที่ 5.255 การเรียกใช้งานเครื่องมือกลุ่ม Solid Tools |
กลุ่มเครื่องมือ Solid Tools สามารถใช้ได้กับวัตถุที่สร้างเป็น Component หรือสร้าง Group เอาไว้ แล้วหาปริมาตรของ Group หรือ Component นั้น ๆ โดยเราสามารถ Click ขวาที่ Component หรือ Group แล้วเลือกคำสั่ง Entity Info
ภาพที่ 5.256 การหาปริมาตรของ Group หรือ Component |
จะปรากฏ Entity Info Box ขึ้นมาดังภาพ
ภาพที่ 5.257 Entity Info Box ของ Solid Group |
จะสังเกตุเห็นตัวหนังสือคำว่า Solid Group หรือ Solid Component และมีปริมาตร (Volume) บอกไว้ ซึ่งแสดงว่าวัตถุเหล่านี้สามารถใช้ได้กับกลุ่มเครื่องมือ Solid Tools ได้ การสร้าง Solid Group หรือ Solid Component มีข้อพึงระวังดังต่อไปนี้
1. ใน Component หรือ Group นั้นต้องเป็นรูปทรงปิดที่หาปริมาตรและรูปทรงปิดเหล่านั้นจะต้องไม่มีพื้นผิวที่ติดต่อกัน
2. ต้องไม่มีส่วนของเส้น หรือพื้นผิวส่วนเกินที่ไม่สามารถหาปริมาตรของ Component หรือ Group ได้
A. เป็นพื้นผิวส่วนเกินที่อยู่ภายในชิ้นงาน
B. เป็นพื้นผิวส่วนเกินที่อยู่ภายในชิ้นงาน
C. เป็นเส้นส่วนเกินที่ติดกับชิ้นงาน
D. เป็นเส้นส่วนเกินที่ไม่ติดกับชิ้นงาน
การรวมชิ้นงาน Solid ให้เป็นชิ้นเดียวกันด้วย Outer Shell และ Union
Outer Shell และ Union เป็นเครื่องมือที่ใช้รวมชิ้นงาน Solid เข้าด้วยกัน ทั้ง Outer Shell และ Union มีวิธีการใช้งานเหมือนกันทุกประการ และผลลัพธ์ที่ดูภายนอกจะเหมือนกันทุกประการ แต่จะมีข้อแตกต่างเมื่อใช้มุมมอง X-Ray (ภายในชิ้นงาน)
1. สร้างชิ้นงานขึ้นมา โดยกำหนดให้เป็น Group หรือ Component ให้เรียบร้อย
ภาพที่ 5.258 ชิ้นงาน 2 ชิ้นที่จะนำมาทำเป็น Outer Shel หรือ Union |
2. ใช้ Move Tools ย้ายชิ้นงานให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
ภาพที่ 5.259 การย้ายชิ้นงานทางขวามาอยู่ในชิ้นงานทางซ้าย |
3. คลิก Outer Shell หรือ Union ในชิ้นงานนี้จะให้ผลลัพธ์เหมือนกัน แล้วเลือกที่ชิ้นงานจะเห็นเมาส์มีหมายเลข 1 ปรากฏอยู่
ภาพที่ 5.260 ผลการคลิก Outer Shell หรือ Union กับชิ้นงานที่ 1 |
4. เลือกชิ้นงานต่อไป Mouse Pointer จะมีเลข 2 เมื่อเลือกชิ้นงานครบแล้วเลือกบริเวณใดก็ได้นอกชิ้นงานจะได้ชิ้นงานที่เสร็จสมบูรณ์
ภาพที่ 5.261 ผลจากการคลิก Outer Shell หรือ Union กับชิ้นงานที่ 2 |
ความแตกต่างของ Outer Shell และ Union
Outer Shell และ Union แตกต่างกันเล็กน้อย คือ Outer Shell จะลบรายละเอียดทั้งหมดภายในชิ้นงาน ออกไปเหลือเพียงผิวด้านนอกเท่านั้น ส่วน Union จะเหมือนกับการเอาชิ้นงานมาต่อกัน รายละเอียดส่วนที่ไม่ได้ซ้อนทับกันระหว่างชิ้นงานก็ไม่ได้ถูกลบออกไป
ภาพที่ 5.262 ผลจากการรวมชิ้นงานด้วย Outer Shell (ซ้าย) และ Union (ขวา) |
การตัดชิ้นงานที่ซ้อนทับกันด้วย Intersect
เครื่องมือ Intersect จะให้ผลลัพธ์เป็นชิ้นส่วนที่ซ้อนทับกัน โดยมีวิธีการใช้งานดังต่อไปนี้
1. สร้างชิ้นงานแบบ Solid ขึ้นมา แล้วแบ่ง Group หรือ สร้าง Component ให้เรียบร้อย
ภาพที่ 5.263 สร้างชิ้นงาน Solid ขึ้นมาและกำหนดเป็น Group หรือ Component |
2. ใช้ Move Tool ย้ายชิ้นงานให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ
ภาพที่ 5.264 ใช้ Move Tool ย้ายชิ้นงานให้อยู่ในตำแหน่งที่ต้องการ |
3. คลิก Intersect ที่ชิ้นงานจะเห็นมีหมายเลข 1 ปรากฎอยู่
ภาพที่ 5.265 คลิก Intersect ที่ชิ้นงานจะมีหมายเลข 1 กำกับอยู่ |
4. เลือกช้ินงานชิ้นต่อไป Mouse จะขึ้นหมายเลข 2
ภาพที่ 5.266 เลือกชิ้นงานชิ้นต่อไป จะแสดงหมายเลข 2 กำกับ่ |
5. ผลลัพธ์ที่ได้
ภาพที่ 5.267 ผลลัพธ์ที่ได้เป็นชิ้นส่วนสองชิ้นที่ซ้อนทับกัน |
ลักษณะการใช้งาน Intersect ใน SketchUp เวอร์ชั่น 8
- 1. Intersect with Model จะเป็นการ Intersect กันด้วยโมเดลทั้งชิ้น ไม่ว่าจะเลือกพื้นผิวไว้เพียงไม่กี่ชิ้นก็ตาม โปรแกรมจะไม่สนใจอะไร โดยจะ Intersect ส่วนที่ตัดกันทั้งหมด
- 2. Intersect with select จะเป็นการ Intersect เฉพาะส่วนที่เลือกเอาไว้เท่านั้น ส่วนที่ไม่เลือกจะไม่เกิดผลใด ๆ ทั้งสิ้น
ต่อไปนี้จะเป็นการ Intersect with Model
1. สร้างโมเดลสำหรับ Intersect ด้วยเครื่องมือต่าง ๆ
ภาพที่ 5.268 โมเดลที่อต้องการนำมา Intersect |
2. ย้ายตำแหน่งของโมเดลไปบนพื้นผิวที่ต้องการ Intersect
ภาพที่ 5.269 การย้ายตำแหน่งของโมเดลให้ซ้อนทับกัน |
3. คลิกเลือก Model หรือ พื้นผิวส่วนใดส่วนหนึ่ง คลิกขวาแล้วเลือกคำสั่ง Intersect > Intersect with Model
ภาพที่ 5.270 การ Intersect with Model |
4. สังเกตว่าจะมีเส้นเพิ่มขึ้นมาในส่วนที่ทับซ้อนกัน
ภาพที่ 5.271 เส้นที่เพิ่มขึ้นมาจากส่วนที่ซ้อนทับกัน |
5. คลิกเลือก Model ที่นำมาเจาะและลบทิ้งไป
ภาพที่ 5.272 การลบโมเดลที่นำมาเจาะ |
6. เส้นจากการ intersection จะเป็นส่วนหนึ่งของโมเดลคลิกและลบเส้นทิ้งไปในกรณีที่โมเดลมีความหนา เส้นจะ ปรากฎด้านหลังด้วย ให้เลือกและลบทิ้งไป
ภาพที่ 5.273 ผลจากการเจาะและลบโมเดลชิ้นที่ทำหน้าที่เจาะแล้ว |
โมเดลที่เกิดจากการ Intersect โดยวัตถุที่ถูกจัด Group เอาไว้ หลังจากที่ถูกเจาะและลบทิ้งไป ส่วนที่เหลืออยู่จะเป็นพื้นผิวเปิด หรือไม่มีพื้นผิวอยู่ในส่วนดังกล่าว หากว่าอยากได้พื้นผิวเหลืออยู่จากการ Intersect ด้วย ก็ต้องยกเลิกการ Group เสียก่อน แล้วค่อยเจาะด้วยคำสั่ง Intersect ดังวิธีการดังกล่าว
การใช้งาน Subtract
Subtract มีหลักการทำงานคือ จะตัดเนื้อของชิ้นงาน Solid ชิ้นแรกที่เราเลือกและเนื้อของชิ้นงานอื่นที่ซ้อนทับกันกับชิ้นงานแรกออกไป ดังนั้น จึงควรระมัดระวังในการเลือกชิ้นงานก่อนหลัง ดังขั้นตอนต่อไปนี้
1. สร้างโมเดลอย่างน้อย 2 โมเดล แต่ละโมเดลกำหนดเป็น Group หรือ Component เอาไว้
ภาพที่ 5.274 โมเดล 2 โมเดลที่แต่ละโมเดลกำหนดเป็น Group หรือ Component เอาไว้ |
2. นำโมเดลมาซ้อนทับกัน
ภาพที่ 5.275 การนำโมเดลมาซ้อนทับกัน |
3. คลิก Subtract แล้วเลือกรูปร่างที่ต้องการทำหน้าที่ตัดจะแสดงหมายเลข 1 และเลือกส่วนของพื้นผิวที่จะตัดด้วยรูปร่าง รูปทรง จะแสดงหมายเลข 2
ภาพที่ 5.276 การเลือก Subtract และกำหนดชิ้นที่จะทำหน้าที่ตัดเจาะคลิกลำดับที่ 1 ชิ้นที่ถูกตัดเจาะคลิกลำดับที่ 2 |
4. จะได้ชิ้นงานที่ถูกตัดเจาะดังภาพ
ภาพที่ 5.277 ผลจากการเจาะรูปทรงสี่เหลี่ยมสีชมพู (2) ด้วยทรงกลมสีฟ้า (1) |
การใช้งาน Trim ตัดชิ้นส่วนที่เกินออกไป
Trim เป็นเครื่องมือที่ใช้ตัดเส้นขอบของชิ้นงาน Solid ที่ซ้อนทับกันเข้าไปอยู่ในชิ้นงาน Solid อีกชิ้นหนึ่ง
1. นำชิ้นงาน Solid มาซ้อนทับกันดังภาพ
ภาพที่ 5.278 การซ้อนทับกันของชิ้นงาน Solid |
2. คลิกที่เครื่องมือ Trim แล้วกำหนดส่วนที่ 1
ภาพที่ 5.279 การคลิกที่เครื่องมือ Trim และกำหนดส่วนที่ 1 |
3. คลิกส่วนที่ 2 (ส่วนของชิ้นงานที่จะตัดโดยส่วนที่ 1)
ภาพที่ 5.280 คลิกเลือกส่วนที่ 2 |
4. คลิกเลือกทุกชิ้นจนครบ (จากภาพต้องเลือกรูปทรงสี่เหลี่ยมครบทั้ง 5 ชิ้น)
ภาพที่ 5.281 ส่วนที่ 2 ที่ต้องคลิกเลือกทุกชิ้น |
5. Click ลบส่วนที่ 1 ก็จะเหลือเฉพาะส่วนที่ 2 ที่ถูกตัดออกดังภาพ
ภาพที่ 5.282 แสดงชิ้นงานภายหลังลบส่วนที่ 1 ออก |
จะเห็นว่าชิ้นงานส่วนที่เกินเข้าไปใน Solid ส่วนที่ 1 จะถูกตัดออกไปเรื่อย ๆ ทุกครั้งที่คลิกเลือกส่วนที่ 2
เมื่อลองลบชิ้นงานที่ 1 จะเห็นว่าชิ้นงาน Solid ที่ถูกตัดจะเป็นอิสระจากกัน แต่ละชิ้นจะถูกตัดจะสร้างพื้นที่ปิดเพื่อให้ชิ้นงานนั้นยังคงเป็นชิ้นงาน Solid ต่อไป
การใช้งาน Split แยกส่วน Solid ออกจากกัน
Split เป็นเครื่องมือที่จะแบ่งชิ้นงาน Solid ออกจากกัน โดยแบ่งชิ้นงานส่วนที่ซ้อนทับกัน และชิ้นงานที่ไม่ได้ซ้อนทับกันของส่วนที่ 1 และ ของส่วนที่ 2 ดังขั้นตอนต่อไปนี้
1. นำชิ้นงาน Solid มาซ้อนทับกันแล้วคลิกที่เครื่องมือ Split
ภาพที่ 5.283 ชิ้นงาน Solid ที่ต้องการแยกส่วนกันด้วย Split |
2. คลิกเลือกชิ้นงานส่วนที่ 1
ภาพที่ 5.284 การเลือกชิ้นงาน Solid ชิ้นที่ 1 |
3. คลิกเลือกชิ้นงานส่วนที่ 2
ภาพที่ 5.285 การเลือกชิ้นงาน Solid ชิ้นที่ 2 |
4. จะได้ชิ้นงานที่ดูเหมือนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่จริง ๆ ชิ้นงานถูกแยกออกจากกันแล้ว
ภาพที่ 5.286 การใช้เครื่องมือ Move แยกชิ้นงานออกจากกัน |
5. ใช้ Move Tool ย้ายชิ้นงานออกจากกัน ซึ่งผลของการใช้เครื่องมือ Split จะเหมือนกับการใช้ Intersect และเครื่องมือ Subtract 2 ครั้ง
ภาพที่ 5.287 ผลการ Split |