การกำหนดแสงและเงาใน SketchUp
ใน SketchUp เราสามารถกำหนดตำแหน่งและเวลาจริง ๆ บนแผนที่โลก ซึ่งจะได้ทิศทางของแสงและเงาที่แม่นยำมาก สำหรับนำไปประกอบชิ้นงาน
การเรียกใช้งานไดอะล็อกบ็อกซ์ Shadow Setting และ Fog
การกำหนดรายละเอียดของเงา ต้องกำหนดรายละเอียดจากไดอะล็อกบ็อกซ์ Shadow Setting และเมื่อเลือกใช้งานแสงและเงาแล้ว ก็ไม่ควรลืมส่วนเสริมที่จะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ดูบรรยากาศสมจริงขึ้นไปอีก ซึ่งก็ได้แก่การกำหนดหมอกจาง ๆ จาก ไดอะล็อกบ็อกซ Fog สามารถเรียกใช้งานไดอะล็อกบ็อกซ์ทั้ง 2 ได้โดย
1. คลิกที่เมนู Windows > Shadows เพื่อเรียกไดอะล็อกบ็อกซ์ Shadow Settings
ภาพที่ 5.333 |
2. คลิกเครื่องหมายถูกหน้า Display Shadows เพื่อเปิดขึ้นมาใช้งาน
ภาพที่ |
3. คลิกเครื่องหมายถูกหน้า Display Fog เพื่อเรียกใช้งานไดอะล็อกบ็อกซ์ Fog
ภาพที่ |
การกำหนดรายละเอียดให้แสงเงา
การกำหนดรายละเอียดให้กับแสงเงาใน SketchUp จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือกำหนดตำแหน่งและทิศทางของงานที่ทำ เช่น อยู่เมืองไหน และทิศเหนือหันไปทางไหน ส่วนอีกเรื่องจะเป็นการกำหนดรายละเอียดของเงา เช่น เวลาอะไรและเงามีความเข้มระดับไหน
การกำหนดตำแหน่งและทิศทางให้กับแสง
การกำหนดตำแหน่งและทิศทางให้แสงเป็นการกำหนดว่า Site หรือพื้นที่ที่เราสร้างโมเดลอยู่ในตำแหน่งไหนบนโลก โดยสามารถกำหนดได้ทั้งจากค่า Latitude และ Longtitude หรือจะกำหนดจากการคลิกเลือกประเทศเลือกเมืองก็ได้
การกำหนดตำแหน่งและทิศทางให้แสงทำได้ด้วยการคลิกที่เมนู Window > Model Info เปิดหน้าต่าง Model Info ขึ้นมาและกำหนดรายละเอียดต่าง ๆ ดังนี้
1. คลิกเลือก Geo-location
ภาพที่ |
2. กรอกข้อมูลต่าง ๆ ให้ครบ
ภาพที่ |
3. คลิกปุ่ม OK
ภาพที่ |
4. แสงเงาจะเปลี่ยนไปตามแนวตั้ง
ภาพที่ |
อีกวิธีหนึ่งในการกำหนดทิศทางของแสงคือเครื่องมือกลุ่ม Solar North เรียกใช้งานโดยคลิกเมนู View > Toolbar >Solar North หน้าต่างเครื่องมือจะปรากฎขึ้น
การกำหนดรายละเอียดของเงา
การกำหนดรายละเอียดของเงาจะเป็นการกำหนดวันและเวลาที่ต้องการเห็นผลลัพธ์จากเงา และยังรวมไปถึงการปรับค่าความเข้มของแสงและเงาที่ได้อีกเล็กน้อยเพื่อให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน
การกำหนดรายละเอียดของเงาทำได้ด้วยเข้าไปที่ ไดอะล็อกบ็อกซ์ Shadow Settings จากนั้นกำหนดค่าต่าง ๆ ตามรายละเอียดต่อไปนี้
1. คลิกเลือกเวลาที่ต้องการ
ภาพที่ |
2. คลิกเลือกวัน เดือน ปี หรือคลิกปุ่มเล็ก ๆ ด้านหลังเปิดปฏิทินขึ้นมาเลือก
ภาพที่ |
3. กำหนดความเข้มของแสง ยิ่งค่ามากส่วนที่ถูกแสงก็จะสว่างจะมาก
ภาพที่ |
4. กำหนดความเข้มของเงา ยิ่งค่ามากส่วนที่เป็นเงาก็จะเข้มมากไปด้วย
ภาพที่ |
นอกจากความเข้มของเงาแล้ว ยังสามารถกำหนดค่าเพิ่มเติมให้เงามีผลกับพื้นผิวบางส่วนได้ โดยคลิกเลือก Options ที่ต้องการจาก Shadow Settings
Option ต่าง ๆ จะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
» On Faces เป็นการกำหนดให้เงาสามารถตกกระทบบนพื้นผิวของชิ้นงาน ถ้าปิดจะมีผลลัพธ์ดังภาพ
ภาพที่ |
» On ground เป็นการกำหนดให้เงาสามารถตกกระทบบนพื้นของงานที่ทำอยู่ ถึงแม้จะไม่ได้สร้างโมเดลส่วนของพื้นเอาไว้ก็ตาม
เงาจากการกำหนดค่า On ground ที่ตกกระทบระนาบพื้นโดยไม่ต้องมีพื้นผิวก็ได้
ภาพที่ |
» From edges เป็นการกำหนดให้โปรแกรมแสดงเงาของส่วนที่เป็นเส้นที่ยังไม่มีพื้นผิวเพิ่มเข้ามาด้วย
ภาพที่ |
การกำหนดรายละเอียดของหมอก
การกำหนดระยะทางของหมอกจะเป็นการกำหนดจุดเริ่มต้นและจุดสุดท้ายของหมอก โดยถ้ากำหนดให้ดีก็จะได้ผลงานที่ดูมีระยะใกล้ไกล และมีบรรยากาศสมจริงมาก ส่วนการกำหนดสีของหมอกเป็นการเลือกสีที่ต้องการ โดยอาจเลือกเป็นสีฟ้าอ่อนเพื่อสร้างบรรยากาศตอนเช้า ๆ หรือเลือกเป็นสีส้มอ่อน ๆ เพื่อสร้างบรรยากาศตอนเย็น ๆ
การกำหนดระยะทางของหมอกทำได้ด้วยการคลิกที่เมนู Window > Fog จากนั้นจึงเข้าไปกำหนดค่าในไดอะล็อกบ็อกซ์ Fog ดังขั้นตอนต่อไปนี้
1. เปิดไดอะล็อกบ็อกซ์ Fog ขึ้นมา
ภาพที่ |
2. คลิกเครื่องหมายถูกหน้า Display Fog ให้ทำงาน
ภาพที่ |
3. บรรทัดบนคือ ระยะทางในไฟล์ที่ทำอยู่เริ่มจาก 0 คือ ไกล้สุด และ Infinity คือไกลสุด
ภาพที่ |
4. บรรทัดล่างคือความเข้มของหมอกจาก 0 % ไปจนถึง 100 %
ภาพที่ |
5. คลิกเครื่องหมายถูกหน้า Use back ground color ออกและเลือกสีที่ต้องการ
ภาพที่ |
6. ปรับความเข้มของหมอกด้วยการเลื่อนตำแหน่งเริ่มต้นและตำแหน่งสุดท้าย
ภาพที่ |
7. ได้ผลลัพธ์เป็นบรรยากาศยามเช้า
ภาพที่ |
8. ลองเปลี่ยนสีแล้วกำหนดความเข้มในตำแหน่งต่าง ๆ อีกครั้ง
ภาพที่ |
9. บรรยากาศยามเย็นที่เปลี่ยนไปตามสีหมอก
ภาพที่ |